น่าสนใจทีเดียวสำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับหนังเรื่อง “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” ที่นำแสดงโดยนางเอกสาว “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” และ “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” อีกหนึ่งผลงานการผลิตจากของค่าย CJ Major Entertainment ซึ่งกำลังลงโรงฉายอยู่ในตอนนี้
ดูเหมือนว่าจาก “หนังรักโรแมนติก” ตอนนี้ “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” ได้กลายเป็น “หนังตัวประกัน” ของคนที่มีความเห็นต่างในเรื่องความคิดทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว
กับข่าวที่ออกมาในก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าหนัง “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” กำลังถูกผลพวงจากการโพสต์ข้อความทางการเมืองของตัวนักแสดงอย่างหนุ่ม “ปั้นจั่น” เองเล่นงานกระทั่งหนังอยู่ในสภาวะ “ล้มเหลว” ตามที่บางสื่อรายงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีคนแห่ประกาศแบนหนัง, จำนวนคนดูที่โหรงเหรงในวันแรกที่หนังเข้าฉาย และรายได้อันน้อยนิด
แต่เรื่องนี้หากมองในอีกมุมก็ต้องบอกว่าตรงกันข้าม
ถามว่าก่อนจะเกิดกระแสข่าวตามมาหลังจากการโพสต์ข้อความของนักแสดงหนุ่ม มีสักกี่คนที่เคยได้ยินชื่อหนังเรื่อง “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน”มาก่อน? คำตอบก็คือน้อยมาก
ถ้าถามว่าแล้วกระแสข่าวที่ว่ามีคนไม่พอใจการโพสต์ข้อความของหนุ่มปั้นจั่นจนพากันประกาศแบนผลงานของเจ้าตัวโดยพุ่งเป้าไปที่หนัง “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” นั้นมีผลมั้ย? คำตอบก็คือคงจะมีอยู่บ้าง แต่ก็น่าจะน้อยมากเช่นกัน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กัน ต่อกรณีที่กลุ่มคนซึ่งมีความคิดเรื่องการเมืองฝั่งนึงพากันพยายามที่จะออกข่าวแบนผลงานของนักแสดงและผู้กำกับคนดัง “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” มาแล้ว แต่ก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ว่าการตอบรับงานหนังเรื่อง “นาคี 2” รวมถึงละครเรื่องล่าสุดอย่าง “กรงกรรม” ของเจ้าตัวนั้นเป็นอย่างไร
ที่จริงรายได้เปิดตัวของหนัง “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” ระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย. ไม่ว่าจะอยู่ที่อยู่ 3.58 ล้านบาทตามการรายงานของเพจชมรมวิจารณ์บันเทิง หรือที่ 7.2 ล้านบาทตามการายงานของเวบไซต์ thailandboxoffice.com ก็ต้องถือว่าสมน้ำสมเนื้ออยู่เมื่อมองไปในหลายๆ มุม ไม่ว่าจะเป็นฐานแฟนคลับของตัวนักแสดง ประเภทของหนังที่เป็นหนังรักโรแมนติก ตลอดจนตัวเลือกจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายพร้อมกัน ทั้ง ทอยสตอรี 4, MIB 4 เมน อิน แบลค, X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์
เรียกว่าแม้จะเป็นตัวเลขที่น้อย แต่ก็หาได้ผิดคาดหรือว่าเป็นอะไรที่เลวร้ายมากมายตามที่สื่อซึ่งมีธงการเมืองอยู่แล้วปั่นข่าวแต่อย่างใด เผลอๆ มองแบบคนโลกสวยตัวเลขที่ว่านี้อาจจะ “ดูดี” เสียด้วยซ้ำไปถ้ามองไปถึงการทำตลาด การประชาสัมพันธ์ของหนังที่เงียบเชียบเสียเหลือเกินในก่อนหน้านี้
ตัดเรื่องรายได้ออกไป ว่ากันเฉพาะคุณภาพของตัวหนัง แม้ประเด็น “รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” จะไปคล้ายๆ กับ “ATM เออรัก เออเร่อ” อยู่บ้าง แต่ภาพโดยรวมของหนังที่ออกมานั้นต้องบอกว่า “ดี” ทีเดียว
โดยเฉพาะตัวของนางเอกสาวอย่าง “เอสเธอร์” เธอเล่นได้เป็นธรรมชาติและน่ารักมากๆ ถึงขนาดยกให้เธอเป็นเจ้าแม่หนังโรแมนติกคอมเมดี้ของบ้านเราอีกคนได้เลย
สุดท้ายคงต้องบอกว่าเป็นท่าทีที่ดูอ่อนลงของหนุ่ม “ปั้นจั่น” หลังถูกกระแสวิพากษ์ บวกกับทีท่าของตัวผู้กำกับหนังเองที่ออกมาพูดทำนองว่า “ซวย” ที่หนังตัวเองต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้เหล่านี้นี่แหละที่ส่งหนังดีๆ เรื่องนี้ให้เข้าไปอยู่ในกับดักเครื่องมือทางการเมืองที่บางสื่อกรุยทางวางเอาไว้
ถ้ามั่นใจในความคิดของตนเอง ถ้ามั่นใจว่าตัวเองพูดถูก-เขียนถูกแล้ว ใยเจ้าต้องไปสนใจเรื่องใดอีก…
