วูล์ฟแฮมป์ตัน ของกุนซือบรูโน่ ลาจ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลัง 9 นัดหลังสุดในลีกแพ้แค่เกมเดียว แต่ 2 นัดหลังสุดทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับ เบิร์นลีย์ และนอริช ซิตี 0-0 เกมนี้ใช้ ราอูล ฆิมิเนซ, ฮวาง ฮี-ชาน และอดามา ตราโอเร เป็น 3 แนวรุก
ด้าน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เก็บชัยมา 4 เกมรวดในทุกรายการ วันนี้วาง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดิโอโก โชตา เป็น 3 ประสานในแดนหน้า
ครึ่งแรกแม้ ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายที่ครองเกมบุกได้เหนือกว่า แต่เจ้าถิ่นมาเล่นเกมรับกันได้อย่างเหนียวแน่นทำให้ทีมเยือนหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูได้ยาก ขณะเดียวกัน วูล์ฟ อาศัยจังหวะสวนกลับได้น่ากลัวหลายครั้งแต่ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก มีโอกาสลุ้นประตูเหน่งๆด้วยกันทั้งสองทีม แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบคมกันทั้งคู่
แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+4 ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายให้ ดิวอก โอริกี หมุดตัวยิงบริเวณกรอบ 6 หลา ผ่านมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกเฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน หวุดหวิด 1-0 เก็บสามแต้มเอาไว้ได้สำเร็จ
จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 34 แต้ม แซง เชลซี ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง 1 แต้ม ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน มี 21 แต้ม รั้งอันดับ 8 ของตาราง

💬 แสดงความคิดเห็น