ระบบปฏิบัติการใหม่ของกูเกิลอย่างแอนดรอยด์โอ (Android O) ถูกวิจารณ์ยับเยินว่าแม้จะดีกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น ‘ว้าว’ โดยเฉพาะในอีกไม่กี่สัปดาห์ คู่แข่งอย่างแอปเปิลก็จะเปิดตัวระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) เวอร์ชันใหม่แล้วด้วย
จากเวอร์ชันปัจจุบัน iOS 10 นักวิเคราะห์ฟันธงว่าเจ้าพ่อแอปเปิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ iOS 11 ในงานประชุมนักพัฒนาประจำปีที่บริษัทจะจัดขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ โดยนอกจากระบบปฏิบัติการใหม่ หลายสื่ออ้างแหล่งข่าววงในยืนยันว่า แอปเปิลจะเปิดตัวคอมพิวเตอร์แมคเวอร์ชันใหม่เพิ่มเติมอีก 3 รุ่นในงานนี้ด้วย
iOS 11 ที่กำลังจะมา ทำให้สื่อนำไปเปรียบเทียบกับ Android O ซึ่งเปิดให้ทดสอบเมื่อวันที่ 17 พ.ค. เฉพาะบนสมาร์ทโฟน Google Pixel และเพิ่งถูกประกาศคุณสมบัติอย่างเป็นทางการ ในงานประชุมนักพัฒนา Google IO 2017 ช่วงวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา คุณสมบัติใหม่ของ Android O ถูกมองว่าไม่สามารถเทียบรัศมีของรุ่นพี่อย่างเวอร์ชัน N ที่ยกระดับระบบเสิร์ชให้การค้นหาทำได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ถูกยกย่องว่าดีกว่าสิริ (Siri) รวมถึงการแจ้งเกิดของอุปกรณ์แสดงภาพเสมือนจริง ‘เดย์ดรีม วีอาร์’ (Daydream VR) รุ่นใหม่ที่โดดเด่นในปีที่แล้ว
มาปีนี้ คุณสมบัติของ Android O ที่ถูกเปิดตัวออกมากลับได้รับคำวิจารณ์ว่า ไม่มีคุณสมบัติหลักใดที่เป็น killer feature สำหรับล้มยักษ์ใหญ่อย่าง iPhone 7 รุ่นปัจจุบันได้อย่างขาดลอย
เมื่อ iPhone 7 ยังล้มไม่ได้ นับประสาอะไรกับ iPhone 8 ในอนาคต ซึ่งจะเป็นไอโฟนรุ่นฉลอง 10 ปีที่คาดว่าแอปเปิลจะปฏิวัติใหม่หมดจดทั้งมุมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
เหตุที่ทำให้คุณสมบัติ Picture-in-picture ไม่ค่อยเรียกเสียงว้าว คือคุณสมบัตินี้แจ้งเกิดแล้วในสมาร์ทโฟนตระกูลแกแล็กซี่ของซัมซุงบางรุ่นแล้วเรียบร้อย
คุณสมบัติใหม่ที่พอจะเชิดหน้าชูตาได้บ้างคือระบบ copy/paste แบบใหม่ จุดเด่นคือความสามารถพยากรณ์ หรือคาดเดาได้อัตโนมัติ ว่าข้อความใดที่ผู้ใช้อาจต้องการคัดลอก เช่น ข้อมูลที่อยู่ หรือข้อความอื่นที่ระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) พบว่าผู้ใช้มักคัดลอกข้อมูลนี้บ่อยครั้ง
ดูไปแล้วระบบ copy/paste แบบใหม่ก็มีเปอร์เซ็นต์มอบความสะดวกสบายให้ผู้ใช้มากขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่นั่นไม่ถูกเรียกว่าเป็น killer feature ที่แท้จริง
เช่นเดียวกับอีกคุณสมบัติใหม่ของ Android O อย่างการใส่ข้อมูลอัตโนมัติในเบราว์เซอร์โครม (Chrome autofill) ที่ระบบสามารถจดจำรหัสผ่านและข้อมูลอื่น ช่วยให้ผู้ใช้กดลงชื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้ในคลิกเดียว นี่ก็ไม่ใช่ killer feature
ทั้งหมดนี้ถือว่าผิดฟอร์ม เพราะ Android O ไม่เพียงถูกคาดหวังว่าจะเป็นก้าวกระโดดของแอนดรอยด์ แต่ Android เวอร์ชันใหม่ยังมีภาพแฝงถึงพลังที่กูเกิลจะเปลี่ยนวิถีการทำงานและการใช้ชีวิตของชาวโลกในอนาคตด้วย แถม Android O ยังแบกรับภาระเรื่องการเป็นแรงกดดันให้แอปเปิลต้องเร่งพัฒนาความสามารถ อย่างที่หลายเวอร์ชันก่อนหน้านี้เคยทำได้