ข่าวเด่น » ปิยบุตร ยัน ธนาธร โอนหุ้นให้แม่สมบูรณ์ตาม กม. โวย กกต.ไม่เคยเรียกให้แจง

ปิยบุตร ยัน ธนาธร โอนหุ้นให้แม่สมบูรณ์ตาม กม. โวย กกต.ไม่เคยเรียกให้แจง

22 เมษายน 2019
445   0

 

เลขาฯ อนาคตใหม่ แจงแทนหัวหน้าพรรค ยัน “ธนาธร” โอนหุ้นวี-ลัคมีเดียให้แม่ตั้งแต่ 8 ม.ค.สมบูรณ์ตามกฎหมาย การันตี “เอก” กลับมาจากบุรีรัมย์เพื่อเซ็นทัน อ้าง “สมพร” โอนให้หลานชายต่อเพราะฝ่ายบัญชีอ้างยังมีหนี้ค้าง แต่หลานโอนกลับมาอีกทีเหตุหนี้เป็นเอ็นพีแอล ปิดกิจการได้ โวย กกต.ไม่เคยเรียกให้แจงปมหุ้นเลย

วันนี้ (22 เม.ย.) ที่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา แทนนายธนาธร ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่ก็ยังคงมีสื่อมวลชนบางสำนักเผยแพร่ข่าวนี้และมีการพาดหัวชี้นำมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคำถามว่ามีความต้องการลดความน่าเชื่อถือของพรรคหรือไม่ ซึ่งเดิมทีทางพรรคต้องการชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อ แต่จนถึงวันนี้กลับยังไม่เคยได้รับการติดต่อจาก กกต.ให้ไปชี้แจงแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เตรียมเอกสารหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว และยังข่าวว่าจะมีการชี้มูลภายใน 1-2 วันนี้ โดยอาศัยข้อมูลจากกรรมการช่วยตรวจสอบซึ่งมีการเรียกหนังสือจากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปประกอบเพียงฝ่ายเดียว แต่เรากลับไม่ทราบเรื่องนี้จาก กกต.เลย จึงเกิดความกังวลใจว่ากระบวนการพิจารณาของ กกต.อาจจะขัดต่อหลักการของกฎหมายในการรับฟังคำชี้แจงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นายปิยบุตรกล่าวถึงรายละเอียดการโอนหุ้นของนายธนาธร และภรรยาว่า วันที่ 8 ม.ค. 62 นายธนาธรและภรรยาได้ดำเนินการโอนหุ้นให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา โดยมีเอกสารคือตราสารโอนหุ้นพร้อมการลงนามรับรองของโรตารี่ พร้อมใบหุ้นรับรองว่าได้มีการโอนหุ้นกันเกิดขึ้นจริง พร้อมเช็คขีดคร่อม และมีการบันทึกลงไว้อยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นสมบูรณ์เรียบร้อย เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1129 วรรค 2 ที่ระบุให้การโอนหุ้นจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีการทำเป็นหนังสือ และมีการลงนามโดยผู้โอนหุ้นกับผู้รับโอนหุ้นและมีหมายเลขหุ้น และวรรค 3 ที่ว่าการโอนเช่นนี้จะนำมาใช้แก่บริษัทหรือบุคคลภายนอกไม่ได้จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งในคำพิพากษาศาลฎีกาก็มีการกำหนดเป็นแนวทางไว้แล้วว่าเมื่อใดก็ตามที่มีการจดแจ้งในทะเบียนผู้ถือหุ้นแล้ว ถือว่ามีผลต่อบุคคลภายนอกแล้ว จึงชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งคู่ได้ทำการโอนหุ้นสมบูรณ์ มีผลทางกฎหมายนับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. นายธนาธรจึงไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัคมีเดีย อีกต่อไป

ส่วนการไปปรากฏตัวของนายธนาธรที่ จ.บุรีรัมย์ ในวันที่มีการโอนหุ้นนั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า ตนได้อยู่ในเหตุการณ์ โดยนายธนาธรขึ้นรถกลับมาที่กรุงเทพฯ ก่อนในช่วงบ่าย เนื่องจากต้องมาจัดการเรื่องโอนหุ้นนี้ ส่วนตนปราศรัยเลี้ยงเวทีไว้หลังนายธนาธรเดินทางกลับ มีหลักฐานการจ่ายเงินค่าทางด่วนอีซี่พาสชัดเจน ก่อนเดินทางออกจากบ้านไปสนามบินดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องบินไป จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 9 ม.ค. มีหลักฐานการจ่ายเงินค่าทางด่วนอีซี่พาส และตั๋วเครื่องบิน ทั้งหมดเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าคืนวันที่ 8 ม.ค. นายธนาธรอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อทำธุระเรื่องการโอนหุ้นจริง หลังจากนั้นวันที่ 14 ม.ค.นางสมพรได้โอนหุ้นให้นายทวี และนายปิติ ซึ่งเป็นหลานชาย โดยมีเอกสารหลักฐานเป็นตราสารโอนหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น โดยเหตุผลคือจากเดิมที่ตั้งใจจะปิดบริษัทตั้งแต่ปี 2561 แต่เนื่องจากบริษัทยังมีลูกหนี้ที่หนี้ค้างชำระกับบริษัทอยู่กว่า 11 ล้านบาท นางสมพรจึงทำตามคำแนะนำของฝ่ายบัญชีบริษัทว่าควรจัดการสะสางเรื่องหนี้สินนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงได้โอนหุ้นให้หลานชายเพื่อให้มาทดลองทำธุรกิจด้วย

นายปิยบุตรอธิบายต่อว่า จากนั้นในวันที่ 19 มี.ค.ได้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย ครั้งที่ 1/62 มีผู้ถือหุ้นเข้าประชุม 10 คน โดยมีผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตัวเอง 4 คน ที่เหลืออีก 6 คนมอบอำนาจให้ผู้ถือหุ้นอีก 4 คนเข้าประชุมแทน โดยวาระการประชุมคือแจ้งการลาออกของนางรวิพรรณ และแจ้งปิดกิจการ เนื่องด้วยฝ่ายบัญชีบริษัทมาตรวจสอบทราบทีหลังว่าหนี้สินที่มีลูกหนี้คงค้างกับบริษัทนั้น เป็นหนี้ NPL คือลูกหนี้หมดศักยภาพในการใช้หนี้แล้ว นายทวี และนายปิติจึงได้มีการโอนหุ้นกลับมาให้นางสมพรอีกครั้งเพื่อดำเนินการปิดกิจการ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 โดยมีหลักฐานเป็นตราสารการโอนหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น จากนั้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย จึงได้ยื่นสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นตาม บอจ.5 ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันที่ 21 มี.ค.โดยเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ระบุให้มีการยื่นปีละหนึ่งครั้ง ภายใน 14 วัน หลังการประชุมผู้ถือหุ้น และที่มีการยื่นในวันที่ 21 มี.ค. ก็เพราะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 มี.ค.เป็นการกระทำที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมายทั้งหมด

นายปิยบุตรกล่าวว่า ดังนั้น การโอนหุ้นดังกล่าวมีผลทางกฎหมายเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.เรียบร้อยแล้ว ตนก็หวังว่าทาง กกต.จะมีความเป็นธรรม และหากพิจารณาตามเอกสารหลักฐานทั้งหมด ควรจะเห็นได้ว่ามีความสมบูรณ์พอแล้วที่จะชี้ว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลดังที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ เมื่อทาง กกต.ยังไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ชี้แจง ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคก็จะขอนำเอกสารทั้งหมดที่ตนชี้แจงในวันนี้ (22 เม.ย.) ไปยื่นให้ กกต.ด้วยตนเอง และหวังว่าทาง กกต.จะรับไว้พิจารณาก่อนที่จะมีการชี้มูลออกมา พรรคสนับสนุนการใช้เสรีภาพของสื่อมวลชน และมีนโยบายหลายอย่างที่จะส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ทั้งนี้ สื่อมวลชนมีหน้าที่ในการเสาะแสวงหาและเผยแพร่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่การเอาข้อเท็จมาขยายความจนสังคมหลงเชื่อว่าเป็นความจริง