
1. เครื่องซักผ้า
เพราะเครื่องซักผ้าต้องอยู่กับความเปียกชื้นทุกครั้งที่ใช้งาน โดยเฉพาะเครื่องฝาหน้าที่มักจะมีน้ำขังอยู่ตามร่องขอบยาง วิธีทำความสะอาดก็คือ เทผงซักฟอกลงในช่องผงซักฟอกและเปิดเครื่องให้ทำงานด้วยระบบน้ำร้อน เมื่อถึงน้ำ 3 ให้เทน้ำส้มสายชูตามลงไป เพื่อลดกลิ่นอับ หลังจากนั้นนำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อสครับเข้มข้น ก่อนป้ายลงในร่องขอบยาง แล้วค่อยนำแปรงสีฟันอันเก่ามาขัดราออก ก่อนทำความสะอาดอีกครั้งให้เกลี้ยง
2. ตู้เย็น
ก่อนทำความสะอาดตู้เย็นทุกครั้ง ควรนำอาหารและสิ่งของต่าง ๆ ที่แช่อยู่ในตู้ออกให้หมด จากนั้นค่อย ๆ ถอดชิ้นส่วนอย่างเช่น ชั้นวางหรือถาดช่องผัก ออกมาแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง แล้วนำผ้าขนหนูชุบน้ำส้มสายชูแล้วเช็ดภายในตู้เย็นทีละมุมให้ทั่ว หากยังไม่สะอาดพอก็ให้ทำซ้ำอีกรอบ ส่วนคราบราที่ทำความสะอาดยากให้นำแปรงสีฟันเก่ามาขัดออก ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าชุบเบกกิ้งโซดา ¼ ถ้วยตวง ผสมน้ำอุ่น 32 ออนซ์ เช็ดด้านในอีกรอบ ทิ้งไว้สักพัก แล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดอีกครั้ง

3. เครื่องปรับอากาศ
เพื่อกำจัดและหยุดยั้งเชื้อรา ให้นำแผงกรองด้านในเครื่องออกมาแช่ในน้ำร้อนที่ผสมน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ประมาณ 15 นาที แล้วขัดฝุ่นกับเชื้อราออกให้เกลี้ยง ล้างด้วยน้ำเปล่า ตากให้แห้ง จากนั้นนำเครื่องดูดฝุ่นมาเป่าทำความสะอาดเศษฝุ่นภายในตัวเครื่อง หากพบว่ามีเชื้อราอยู่ภายในเครื่อง (บริเวณที่ไม่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า) ใช้ผ้าชุบสารฟอกขาว ½ ถ้วยตวง ผสมกับน้ำสบู่ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำร้อนอีก 1 แกลลอน เช็ดเชื้อราออกให้หมด ทิ้งไว้ 10 นาที ก่อนใช้ผ้าสะอาดเช็ดตามอีกครั้ง
4. คอมเพรสเซอร์ดูดอากาศ
แม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่นอกตัวบ้าน แต่เราก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดอย่าให้ขาดตกบกพร่อง หลังทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศเรียบร้อยแล้ว ให้นำน้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง ผสมกับสารฟอกขาว 1 ถ้วยตวง และน้ำยาล้างจานอีก 4 หยด แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นก็ถอดแผงปิดคอมเพรสเซอร์ออก แล้วฉีดสเปรย์ที่เตรียมไว้ลงบนผ้าผืนหนาให้พอชุ่ม ก่อนเอาไปเช็ด แต่ระวังอย่าให้โดนในส่วนของระบบไฟฟ้า จากนั้นนำแปรงสีฟันเก่ามาขัดเพื่อกำจัดละอองเชื้อรา ทิ้งไว้ 1 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดออกให้เกลี้ยง ก่อนจะประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิม

5. ไมโครเวฟ
แม้ไมโครเวฟจะทำงานด้วยความร้อน แต่ถ้าหากเราอุ่นอาหารและไม่ทำความสะอาดเลยทันที ก็จะทำให้เชื้อราก่อตัวขึ้นได้ ฉะนั้นถ้าพบคราบราดำในไมโครเวฟ ให้รีบนำฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจานที่ผสมน้ำเปล่ามาขัดถูออก หลังจากนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อรา ให้นำผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่า ๆ กันมาเช็ดในตู้ให้ทั่ว เปิดฝาประตูทิ้งไว้ 15 นาที แล้วใช้ผ้าหมาด ๆ เช็ดออกให้เกลี้ยงและแห้งสนิท
6. พัดลมดูดอากาศ
เนื่องจากอากาศและสิ่งสกปรกมักจะผ่านออกทางพัดลมดูดอากาศ ฉะนั้นวิธีทำความสะอาดที่ดีที่สุดนั่นก็คือ ให้ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สามารถถอดได้ออกมาทำความสะอาด จากนั้นผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าขาวกับน้ำเปล่าเพื่อเจือจาง แล้วนำมาทำความสะอาด โดยเฉพาะบริเวณที่มีคราบรา เช็ดออกด้วยผ้าสะอาด ตากชิ้นส่วนให้แห้ง ก่อนนำกลับไปประกอบใหม่

7. เครื่องชงกาแฟ
ทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟด้วยวิธีง่าย ๆ เริ่มจากเติมน้ำเปล่าลงในหม้อต้มของเครื่องชงกาแฟ จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูลงไป ให้น้ำทั้ง 2 ชนิดไหลผ่านภายในตัวเครื่องในปริมาณที่เท่า ๆ กัน พักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วเปิดเครื่องให้ทำงานตามปกติ ปล่อยให้น้ำหมุนอยู่ภายในหม้อ ทำอย่างนี้ประมาณ 3 ครั้ง แล้วค่อยเทน้ำเปล่าให้ไหลผ่านตัวเครื่อง เพื่อล้างคราบน้ำส้มสายชูและกลิ่นของน้ำส้มสายชูให้หายไป
8. เครื่องดูดฝุ่น
เพราะเป็นอุปกรณ์ที่คอยกักเก็บสิ่งสกปรกไว้นานาชนิด เลยทำให้เชื้อราสามารถก่อตัวขึ้นได้ง่าย ฉะนั้นเราควรทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยการถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่พอจะถอดได้ออกมาทำความสะอาด ใช้ไม้ปัดฝุ่นทะลวงเข้าไปในท่อดูดฝุ่นเพื่อเคลียร์สิ่งสกปรกที่ตกค้างออก หรือจะเปิดน้ำให้ไหลผ่านก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ จากนั้นผสมสารฟอกขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า ½ กะละมัง และน้ำยาล้างจานอีกเล็กน้อย พร้อมกับผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี แล้วนำถุงกรองฝุ่นลงไปแช่และขัดล้างทำความสะอาด
หลังจากนี้ก็ลองตรวจเช็กเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของคุณดูนะคะ ว่ามีคราบเชื้อราติดอยู่บ้างไหม ถ้ามีก็ให้รีบนำวิธีทำความสะอาดตามอย่างที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองใช้ดูนะคะ เพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัย ไร้เชื้อราที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย