หน.ภูมิใจไทย ย้ำ รมต.พรรคนิ่งมานานแล้ว “ชาดา” นั่ง ปธ.วิปพรรค เชื่อ “นาที” ไม่ตั้งใจลืมแจงบัญชีแค่ลืม ตัดปัญหาให้ ย้ำคนสำคัญต้องดูแล ชี้รัฐบาลใหม่เปรียบเรือเหล็กไร้ปัญหาเคลือบกันสนิมแล้ว แม้เสียงปริ่มน้ำแต่ถ้าทำความดีก็อยู่รอด แย้มคุยนายกฯ ผลักดันนโยบายกัญชา
วันนี้ (4 ก.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยถือว่านิ่งมานานแล้ว โดยตนได้ส่งประวัติของว่าที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 7 คน 8 ตำแหน่งไปครบถ้วนแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมา ส่วนกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถูกตีกลับนั้นไม่มีอะไร เคลียร์กันแล้ว เพราะท่านก็มีความเหมาะสมเคยเป็นถึงผู้บริหาร และนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ทางนายชาดาเองก็มีความเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครคอยช่วย ท่านก็เลยเสียสละให้น้องสาวขึ้นมาเป็น และนายชาดาเองก็จะไปทำหน้าที่ประธานวิปของพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวถือว่าเหมาะสม
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนางนาที รัชกิจประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมายอมรับว่าลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ว่านางนาทีได้บอกว่าลืมแจ้งไปตั้งแต่ปี 2554 คนรวยก็มักจะมีปัญหาแบบนี้ทุกปี ส่วนตัวมั่นใจว่านางนาทีลืมโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะเท่าที่จำได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนักงานของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดสตูล แกคงลืมเพราะมีตึกแถวเยอะ ที่ผ่านมานางนาทีก็มายอมรับกับตน ดังนั้น เมื่อตนทราบก็บอกไปว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงาน เลยได้มีการเสนอชื่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ขึ้นมาเป็นว่าที่ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา ซึ่งปัญหาดังกล่าวนางนาทีไม่ได้ทราบมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีก็ได้มีการตรวจสอบประวัติจึงได้พบปัญหาดังกล่าว เมื่อตนพิจารณาแล้วก็เลยมองว่าอย่าเพิ่งเป็นรัฐมนตรีในตอนนี้ดีกว่า จนกว่าศาลจะมีการพิพากษาออกมาอย่างไร ตนมองว่าไม่กระทบต่อพรรคเพราะนางนาทีเองเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หากหลุดจากตำแหน่งก็มีการเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา
ส่วนที่นางนาทีถือเป็นแม่ทัพในพื้นที่ภาคใต้จะกระทบต่อฐานเสียงในพื้นที่หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่ไม่สุจริต เป็นเรื่องของความผิดพลาด หากเทียบกับโทษที่เขาจะได้รับตามรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคไม่ดี จะโดนกี่ปีก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา และโดยฐานะเขาก็มีธุรกิจร่ำรวย ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เขามาเล่นการเมืองเพราะมุ่งประโยชน์ส่วนรวม ตนให้ความนับถือเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยในส่วนของภาคใต้ที่สามารถนำ ส.ส.เข้ามาได้ถึง 11 คน ตนก็ต้องดูแลเพราะถือว่าเป็นคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่ามีความกังวลต่อกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่ารัฐบาลชุดใหม่เป็นเหมือนเรือเหล็กที่อาจจะมีสนิมเนื้อในหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก่อนทำเรือเขาได้เคลือบบลิงโค้ด สนิมขึ้นไม่ได้ เวลาทำเรื่องเหล็กต้องถามผม เพราะต้องมีหลายชั้น หลายขั้นตอน ไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำงานเพื่อบ้านเมืองอะไรดีก็ว่ากันไป อะไรไม่ดีต่อให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่ปริ่มน้ำก็ต้องค้านกัน รัฐบาลจะอยู่รอดได้ก็ต้องทำความดี ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประชาชนและบ้านเมือง ถ้าทำแบบนี้ต่อให้มีเสียงเกินหนึ่งเสียงก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าถ้าทำสิ่งที่ไม่ได้ความ ต่อให้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็พังมาให้เห็นหลายรัฐบาลแล้ว” นายอนุทินกล่าว
ส่วนจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นกังวลหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่กังวลเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เพียงแต่อย่าทำให้ช้ามากกว่านี้เลย เพราะจากที่ตนลงพื้นที่ ประชาชนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาทำงานสักที ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าก็คงใกล้แล้ว คงจะยืดไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนจะมองว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนนั้น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะไม่ได้กังวลเรื่องเวลา ทุกคนตั้งใจทำงานก็ไปได้ และเราทำในสิ่งที่ดีเราก็ต้องมั่นใจ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ตั้งใจทำงานตามนโยบายที่ให้กับประชาชน เมื่อเข้าไปก็ทำงานได้ทันทีเลย โดยพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) จะเดินทางไปยัง รพ.อภัยภูเบศร เพื่อหารือเรื่องการใช้กัญชาในการรักษาโรค เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเราได้ทำตามนโยบายที่หาเสียง ในอนาคตจะได้เลือกเรากลับมาอีก
เมื่อถามว่าพรรคยังมั่นใจว่าในนโยบายที่สนับสนุนให้ประชาชนปลูกกัญชาครอบครัวละ 6 ต้น จะได้บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมั่นใจ ส่วนที่นายกฯ เคยระบุว่าไม่เห็นด้วยนั้นก็เป็นการพูดโดยทั่วไป ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสพูดกับนายกฯ แล้ว ท่านก็มีความเห็นด้วยว่าพร้อมที่จะผลักดันเรื่องนี้ ขอเน้นว่านโยบายของพรรคเป็นการให้ประชาชนปลูกเพื่อการแพทย์ และเพื่อการรักษาโรคเป็นหลัก ส่วนจะทำให้เป็นรูปธรรมได้ขนาดไหน หลังจากที่ตนได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแล้วก็จะผลักดันให้ถึงที่สุด ส่วนไหนที่สามารถได้โดยตำแหน่งไม่ว่าจะประกาศของกระทรวง หรือการแจ้งไปยัง ครม.ก็สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนไหนที่จะไปแก้ไขกฎหมาย หรือตรา พ.ร.บ.ใหม่ขึ้นมาก็จะดำเนินการตามกระบวนการไป
หน.ภูมิใจไทย ย้ำ รมต.พรรคนิ่งมานานแล้ว “ชาดา” นั่ง ปธ.วิปพรรค เชื่อ “นาที” ไม่ตั้งใจลืมแจงบัญชีแค่ลืม ตัดปัญหาให้ ย้ำคนสำคัญต้องดูแล ชี้รัฐบาลใหม่เปรียบเรือเหล็กไร้ปัญหาเคลือบกันสนิมแล้ว แม้เสียงปริ่มน้ำแต่ถ้าทำความดีก็อยู่รอด แย้มคุยนายกฯ ผลักดันนโยบายกัญชา
วันนี้ (4 ก.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยถือว่านิ่งมานานแล้ว โดยตนได้ส่งประวัติของว่าที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 7 คน 8 ตำแหน่งไปครบถ้วนแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมา ส่วนกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถูกตีกลับนั้นไม่มีอะไร เคลียร์กันแล้ว เพราะท่านก็มีความเหมาะสมเคยเป็นถึงผู้บริหาร และนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ทางนายชาดาเองก็มีความเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครคอยช่วย ท่านก็เลยเสียสละให้น้องสาวขึ้นมาเป็น และนายชาดาเองก็จะไปทำหน้าที่ประธานวิปของพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวถือว่าเหมาะสม
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนางนาที รัชกิจประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมายอมรับว่าลืมแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ว่านางนาทีได้บอกว่าลืมแจ้งไปตั้งแต่ปี 2554 คนรวยก็มักจะมีปัญหาแบบนี้ทุกปี ส่วนตัวมั่นใจว่านางนาทีลืมโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เพราะเท่าที่จำได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนักงานของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดสตูล แกคงลืมเพราะมีตึกแถวเยอะ ที่ผ่านมานางนาทีก็มายอมรับกับตน ดังนั้น เมื่อตนทราบก็บอกไปว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงาน เลยได้มีการเสนอชื่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ขึ้นมาเป็นว่าที่ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา ซึ่งปัญหาดังกล่าวนางนาทีไม่ได้ทราบมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีก็ได้มีการตรวจสอบประวัติจึงได้พบปัญหาดังกล่าว เมื่อตนพิจารณาแล้วก็เลยมองว่าอย่าเพิ่งเป็นรัฐมนตรีในตอนนี้ดีกว่า จนกว่าศาลจะมีการพิพากษาออกมาอย่างไร ตนมองว่าไม่กระทบต่อพรรคเพราะนางนาทีเองเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หากหลุดจากตำแหน่งก็มีการเลื่อนลำดับอื่นขึ้นมา
ส่วนที่นางนาทีถือเป็นแม่ทัพในพื้นที่ภาคใต้จะกระทบต่อฐานเสียงในพื้นที่หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่ไม่สุจริต เป็นเรื่องของความผิดพลาด หากเทียบกับโทษที่เขาจะได้รับตามรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคไม่ดี จะโดนกี่ปีก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา และโดยฐานะเขาก็มีธุรกิจร่ำรวย ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เขามาเล่นการเมืองเพราะมุ่งประโยชน์ส่วนรวม ตนให้ความนับถือเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยในส่วนของภาคใต้ที่สามารถนำ ส.ส.เข้ามาได้ถึง 11 คน ตนก็ต้องดูแลเพราะถือว่าเป็นคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่ามีความกังวลต่อกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มองว่ารัฐบาลชุดใหม่เป็นเหมือนเรือเหล็กที่อาจจะมีสนิมเนื้อในหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก่อนทำเรือเขาได้เคลือบบลิงโค้ด สนิมขึ้นไม่ได้ เวลาทำเรื่องเหล็กต้องถามผม เพราะต้องมีหลายชั้น หลายขั้นตอน ไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำงานเพื่อบ้านเมืองอะไรดีก็ว่ากันไป อะไรไม่ดีต่อให้เสียงปริ่มน้ำหรือไม่ปริ่มน้ำก็ต้องค้านกัน รัฐบาลจะอยู่รอดได้ก็ต้องทำความดี ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประชาชนและบ้านเมือง ถ้าทำแบบนี้ต่อให้มีเสียงเกินหนึ่งเสียงก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าถ้าทำสิ่งที่ไม่ได้ความ ต่อให้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก็พังมาให้เห็นหลายรัฐบาลแล้ว” นายอนุทินกล่าว
ส่วนจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเป็นกังวลหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่กังวลเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เพียงแต่อย่าทำให้ช้ามากกว่านี้เลย เพราะจากที่ตนลงพื้นที่ ประชาชนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาทำงานสักที ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าก็คงใกล้แล้ว คงจะยืดไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนจะมองว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนนั้น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะไม่ได้กังวลเรื่องเวลา ทุกคนตั้งใจทำงานก็ไปได้ และเราทำในสิ่งที่ดีเราก็ต้องมั่นใจ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ตั้งใจทำงานตามนโยบายที่ให้กับประชาชน เมื่อเข้าไปก็ทำงานได้ทันทีเลย โดยพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) จะเดินทางไปยัง รพ.อภัยภูเบศร เพื่อหารือเรื่องการใช้กัญชาในการรักษาโรค เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเราได้ทำตามนโยบายที่หาเสียง ในอนาคตจะได้เลือกเรากลับมาอีก
เมื่อถามว่าพรรคยังมั่นใจว่าในนโยบายที่สนับสนุนให้ประชาชนปลูกกัญชาครอบครัวละ 6 ต้น จะได้บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนมั่นใจ ส่วนที่นายกฯ เคยระบุว่าไม่เห็นด้วยนั้นก็เป็นการพูดโดยทั่วไป ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสพูดกับนายกฯ แล้ว ท่านก็มีความเห็นด้วยว่าพร้อมที่จะผลักดันเรื่องนี้ ขอเน้นว่านโยบายของพรรคเป็นการให้ประชาชนปลูกเพื่อการแพทย์ และเพื่อการรักษาโรคเป็นหลัก ส่วนจะทำให้เป็นรูปธรรมได้ขนาดไหน หลังจากที่ตนได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแล้วก็จะผลักดันให้ถึงที่สุด ส่วนไหนที่สามารถได้โดยตำแหน่งไม่ว่าจะประกาศของกระทรวง หรือการแจ้งไปยัง ครม.ก็สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนไหนที่จะไปแก้ไขกฎหมาย หรือตรา พ.ร.บ.ใหม่ขึ้นมาก็จะดำเนินการตามกระบวนการไป