ระดับ บิ๊ก สคบ.ส่งผงยาลดอ้วนเถื่อนให้ขายเก็บส่วยเดือนละ 2 หมื่นต่อคน
จากกรณีเมื่อสายของวันนี้(6ก.ค.) พล ต.ต.ทินณะรัตน์ เพชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี ผกก.สืบสวน ภ.จว.กส. ดร.วิมนรัตน์ ภูผาสุข รองนายแพทย์ สสจ. นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ 131/2562 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 เข้าบุกค้น บ้านของ นางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี เลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ และติดถนนจะไปตัวอำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
การบุกตรวจบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบ นางวสภัสสร สุลำนาจ รับเป็นเจ้าของบ้าน โดยด้านหน้าบ้านติดชื่อบริษัทเป็นภาษาอังกฤษและไทย บริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด เป็นที่ผลิตอาหาร แต่จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเครื่องแยกบรรจุยาและผงยา ที่มีส่วนผสมของสารไซบูลทรามีน เฟนตามีน และลอร์คาเซริน ที่มีผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับคลื่นไส้ ปวดหัว ความดันโลหิตสูง ประสาทหลอน ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีเม็ดแคปซูลยาที่รอบรรจุและบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งจำหน่ายอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจพบโกดังที่ใช้เพื่อการบรรจุยาลดน้ำหนัก อีกสองแห่ง ที่ห่างออกจากตัวโรงงานประมาณอีก 2 กิโลเมตร โดยในแต่ละแห่งเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการเผาทำลาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังพบอุปกรณ์ในการชั่วตวงเม็ดยา ผงลักษณะคล้ายยา จากประเทศจีน กล่องบรรจุภัณฑ์และกล่องที่เตรียมบรรจุเพื่อส่งต่อและเม็ดแคปซูนยาที่บรรจุแล้วและยังไม่บรรจุ มากกว่า 1 ล้านเม็ด
แฉยับระดับ บิ๊ก สคบ.ส่งผงยาให้ขายเก็บเดือนละ 20,000 บาท
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่โดยได้เข้าไปลงพื้นที่ทุกจุด พร้อมกับทำการเก็บหลักฐานตัวผงยาและตัวยาที่ถูกนำไปเผาเพื่อไปพิสูจน์ในผลแล็ป โดยพล.ต.ท.วิระชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบตัวยาที่พบเป็นกลุ่มที่อยู่ในรูปแบบของการควบคุมและต้องจ่ายยาโดย อย. เท่านั้น ถ้ามีการซัดทอดถึง เจ้าหน้าที่ อย. หรือ เจ้าหน้าที่ สคบ. ก็จะทำการขยายผลจับกุมให้ถึงที่สุด
ในส่วนการเชื่อมโยงถึง หญิงที่เสียชีวิตที่จ.อ่างทองนั้น พบว่าคนที่ตายมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเครือข่ายคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ทำการขยายผลและพบว่าเป็นโรงงานผลิตยาลดน้ำหนัก ที่เป็นโรงงานผลิตและมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อ ต่างๆที่ขายอยู่ในออนไลน์ จำนวนมาก ซึ่งมีปริมาณมากกว่า 10 ล้านเม็ด และยังมีวัตถุดิบที่มาทำเป็นยาหลายรายการส่วนใหญ่เป็นยาควบคุมต้องสั่งพิเศษโดย อย.เท่านั้น
“ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่การค้นพบตัวยาที่เชื่อมโยงไปถึง หญิงที่เสียชีวิตที่จังหวัดอ่างทอง เพราะตัวยาที่พบเป็นชนิดเดียวกัน ซึ่งก็จะต้องไปสอบสวนต่อการเชื่อมโยงอีกครั้งและยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับเครือข่ายนี้ทั้งหมด”
ด้าน นางวสภัสสร สุลำนาจ ผู้ต้องหา กล่าวว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นภายหลังจากที่ตนเองถูกถอนหุ้นออกจากโรงงานที่ผลิตอาหารเสริมในย่านสมุทรสาครเมื่อประมาณเกือบ 4 ปีที่แล้ว จึงได้มาตั้งโรงงานผลิตอาหารเสริมในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้พื้นที่บ้านเปิดเป็นบริษัทฯ
โดยนางวสภัสสรอ้างว่าตัวผงยารวมไปถึงผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการสนับสนุนจาก เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในชั้น 4 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ที่จำเป็นต้องทำต่อ ก็เพราะลูกสาวซึ่งอดีตเป็นเภสัชกรได้ถูกถอนใบอนุญาต
นางวสภัสรรเล่าอีกว่า เจ้าหน้าที่คนนี้บอกว่าสามารถช่วยได้ แต่ต้องแลกกับการขายยาลดน้ำหนักทางออนไลน์ และต้องส่งเงินให้เดือนละ 20,000 บาท ส่งให้หลายคนในกลุ่มเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนดังกล่าว ตนยืนยันว่าชี้หน้าได้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงได้ตัดสินใจทำและทำต่อเนื่องมา ไม่ว่าจะเป็นตัวยาชนิดไหนก็จะทำออกมาในบางครั้งก็จะนำผงน้ำตาลไปบรรจุแทนในหลายผลิตภัณฑ์
“การขออนุญาตตั้งโรงงานอาหารเสริม ก็เริ่มต้นจากการขอกับ สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่จะมาตรวจแล้วส่งผลไปที่ส่วนกลางและก็เพิ่งที่จะได้รับอนุญาตมาประมาณ 1 เดือน ก็มาถูกจับเสียก่อน แต่ที่ผ่านมาก็ยอมรับว่าบางส่วนก็ได้ผลิตต่อเนื่องมาตั้งแต่ถอนหุ้นจากจังหวัดสมุทรปราการแล้ว” ผู้ต้องหากล่าว