บาร์เซโลน่า ถึงคราวสิ้นสภาพทางการเงิน หลังมีรายงานว่าพวกเขาต้องพิจารณาขายนักเตะที่ไม่ใช้งานทิ้ง เพื่อหาเงินมาเสริมทัพผู้เล่นใหม่สำหรับตลาดซื้อขายซัมเมอร์ ฤดูกาลหน้า
ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา บาร์ซ่า ภายใต้การดูแลของ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร จัดสรรทุนให้นำไปซื้อนักเตะใหม่แต่ละครั้งที่ 60-75 ล้านยูโร (ประมาณ 2,140-2,680 ล้านบาท) แต่ไม่ใช่กับซัมเมอร์ที่จะมาถึง
ฆอร์ดี คาร์โดเนอร์ รองประธานของ “เจ้าบุญทุ่ม” เปิดเผยกับ อีเอสพีเอ็น ว่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่โจมตีทั้งสเปนและทั่วโลก ทำให้พวกเขาสูญเสียรายได้ไปถึง 140 ล้านยูโร (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) และแน่นอนว่ากระทบต่อเงินทุนสำหรับเซ็นสัญญานักเตะใหม่ด้วย
จากปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ บาร์ซ่า จำเป็นต้องหาทางโละนักเตะที่ไม่ใช้งานออกไปเพื่อมาเป็นทุนซื้อขายนักเตะใหม่ ทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อิวาน ราคิติช, อุสมาเน่ เดมเบเล่ ทว่าด้วยวิกฤตการเงินที่หลายสโมสรก็ขาดรายได้จากช่วงโควิด ทำให้ยังไม่มีการดีลใดๆเกิดขึ้น
ช่วงก่อนที่เชื้อไวรัสจะโจมตีวงการฟุตบอล บาร์ซ่า ล็อกเป้าหมายอยากได้ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ ดาวยิงของ อินเตอร์ มิลาน รวมถึงดึง เนย์มาร์ กองหน้าเด็กแนวกลับมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่การมาของเชื้อไวรัสทำให้ทุกอย่างต้องถูกพับเก็บไว้